สรุปงาน Let’s Loose เปิดตัว iPad Air และ iPad Pro ไม่ผิดจากข่าวลื่อ เพิ่มเติมคือ กระจกคือออฟชั่น!

จะเรียกว่าผ่านไปแล้วสำหรับงาน Apple Event รอบล่าสุดที่เขาบอกว่ายาวเพียง 35 นาที (จริงๆ 49 นาที) และ Tim Cook บอก เปิด iPad อย่างเดียว และมันมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราจะมาสรุปสั้นๆ ให้ได้ดูกันครับ

iPad Air Gen 6

กลายเป็นครั้งแรกที่ iPad Air จะมีให้เลือก 2 ขนาด 11 และ 13 นิ้ว โดยความละเอียดถือว่ามากเหมือนเดิม ส่วนชิป M2 รอบนี้มีการวางลำโพงใหม่ที่มีจุดเด่นคือ รองรับฟีเจอร์ Spatial Audio ให้เสียงรอบทิศ

หน้าจอเป็นแบบ Retina Display แบบเดิม แต่ขนาดรุ่น 13 นิ้วก็จะเป็นแบบเดียวกัน ส่วนกล้องสเปกเดิม และกล้องหน้าย้ายเป็นแนวนอน และรองรับทั้ง Magic Keyboard ใหม่ และ Apple Pencil Pro

ราคาเมืองไทยไทยเริ่มต้น 23,900 บาท และจอ 13 นิ้ว 29,900 บาท

iPad Pro

สำหรับ iPad Pro นอกจากการออกแบบให้บางสุดๆ แล้วยังได้หน้าจอแบบ Ultra Retina XDR ใหม่ที่พลิกวงการด้วยเทคโนโลยี OLED สองชั้นสุดล้ำเพื่อมอบประสบการณ์ด้านภาพที่เหนือชั้น 

หัวใจสำคัญที่ทำให้ iPad Pro ใหม่เป็นจริงได้ก็คือชิป M4 ใหม่ ซึ่งถือเป็น Apple Silicon เจเนอเรชั่นถัดไปที่ก้าวกระโดดทั้งในด้านประสิทธิภาพและความสามารถ นอกจากนี้ชิป M4 ยังมาพร้อมเอนจิ้นจอภาพแบบใหม่หมดที่ทำให้จอภาพ Ultra Retina XDR โดดเด่นทั้งในด้านความแม่นยำ สีสัน และความสว่าง 

เมื่อมีทั้ง CPU ใหม่, GPU เจเนอเรชั่นถัดไปที่พัฒนาขึ้นบนสถาปัตยกรรม GPU ที่เปิดตัวไปกับชิป M3 และ Neural Engine ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา iPad Pro จึงเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังเหลือล้นสำหรับ AI 

ยิ่งกว่านั้น iPad Pro ยังอเนกประสงค์และมากความสามารถยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมแบบใหม่หมด อย่าง Apple Pencil Pro ที่มาพร้อมการโต้ตอบวิธีใหม่ๆ ที่ทรงพลังเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Pencil ไปอีกขั้น รวมถึง Magic Keyboard ใหม่ที่บางเบาขึ้นและอัดแน่นด้วยคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา iPad Pro, Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard ใหม่

แถมยังรอบรับกับลูกเล่นโปรเมื่อต่อเชื่อมกับ Final Cut Pro ดึง iPhone ทั้งหมด 4 เครื่องมาเป็นกล้องควบคุมการถ่ายด้วย iPad แถมดึงไฟล์ตัดต่อและบันทึกผ่าน iPad ได้เลย ถือว่าดีมาก

และยังรองรับ Apple Pencil Pro ใหม่ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่รองรับแรงกด สั่งงานได้หลากหลาย เช่นการบิดมือนิดเดียวเท่ากับเปลี่ยนหัวใหม่ และยังมีการเรียก Shortcut ได้เบาๆ

แต่ที่ตกใจกว่านั้นคือ กระจก Nano Texture Glass นั้นนอกจากเป็นออฟชั่นแล้ว เลือกได้เฉพาะรุ่น 1TB และ 2TB โดยจะต้องเพิ่มเงินจากรุ่นปกติ 4,000 บาท

ยังไม่หมดเพราะกล้องหลังเหลือตัวเดียวตัด Ultra Wide ออก แต่อัปเกรด LiDAR และ LED Flash แบบใหม่สแกนทำให้ระบบถ่ายสแกนเอกสารเก็บได้แทบเหมือนต้นฉบับ

ก็เลยทำให้ราคาในประเทศไทย เริ่มต้น 39,900 – 52,900 บาท แพงสุด 149,000 บาท

ยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมเช่น

  • Apple Pencil (USB-C) สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Pro ใหม่ และมีจำหน่ายในราคา 3,190 บาท และในราคาส่งเสริมการศึกษาที่ 2,790 บาท
  • Apple Pencil Pro ในไทยเปิดที่ 4,990 บาท
  • Magic Keyboard ใหม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Pro ใหม่ และมีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว โดย Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้ว ใหม่มีจำหน่ายในราคา 11,990 บาท ส่วน Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้ว มีจำหน่ายในราคา 13,990 บาท และมีเลย์เอาท์ให้เลือกมากกว่า 30 ภาษา ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้ว อยู่ที่ 11,200 บาท และสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้ว อยู่ที่ 13,200 บาท
  • Smart Folio ใหม่มีจำหน่ายในราคา 3,390 บาท ในสีดำ สีขาว และสีฟ้าเดนิมสำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้วใหม่ และ 4,190 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 13 นิ้วใหม่
  • Logic Pro สำหรับ iPad 2 จะพร้อมใช้งานในวันที่ 13 พฤษภาคม โดยเป็นการอัปเดตฟรีสำหรับผู้ใช้งานเดิม ส่วนผู้ใช้งานใหม่นั้นสามารถดาวน์โหลดได้ใน App Store ในราคา 199 บาท ต่อเดือน หรือ 1,990 บาท ต่อปี โดยมีการทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน Logic Pro สำหรับ iPad 2 ต้องใช้กับ iPadOS 17.4 หรือใหม่กว่า
  • Final Cut Pro สำหรับ iPad 2 จะพร้อมให้ดาวน์โหลดภายในปีนี้ใน App Store ในราคา 199 บาท ต่อเดือน หรือ 1,990 บาท ต่อปี โดยมีการทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน

และการเปิดตัวครั้งนี้ทำให้ iPad รุ่นที่ถูกสุดคือ iPad 10 นั่นเอง เริ่มต้น 13,900 บาทเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


Posted

in

by