สวัสดีอีกครั้งกับบทความพาลองของจริงอีกครั้งในรอบนี้ หลายคนคงจะทราบดีว่า ผมเองใช้กล้องถ่ายคลิปเปิด / ปิดบางทีก็มี Insert บ้างมักจะเป็น Sony ZV-1 ซึ่งส่วนตัวประทับใจจนซื้อมาใช้เอง แต่ก็มีความคิดเล็กๆ ว่าถ้ามันต่อยอดได้มากกว่านี้ก็ดีนะ จนกระทั่งกล้องรุ่นนี้ได้ออกมา มันอยู่ข้างล่างนี้
บทความนี้จะมีเจาะลึกที่ผมชอบและไม่ชอบกับฟีเจอร์ใหม่ที่มีอะไรดีมากขึ้น นอกจากจากแค่พาทัวร์ดู เพราะถ้าเป็นพาทัวร์สามารถกดดูจากคลิปข้างบนนี้ พร้อมแล้วรับชมโลด!!!
บอดี้ลูกผสม A6000 + ZV-1
ทำไมถึงบอกว่าเป็นการผสมร่างกันเพราะภาพรวมและองค์ประกอบมันเหมือนกับกล้อง Mirrorless ตัวเริ่มต้นของ Sony อย่าง A6000 Series ทั้งหมด แต่หน้าจอของกล้องนั้นปัดออกมาด้านข้างแบบเดียวกับ ZV-1 หรือ Sony Handy Cam ก็สื่อชัดเจนว่า มันเหมาะกับการถ่ายวิดีโอมากกว่า
และด้วยโครงสร้างของ A6000 ทำให้การจัดวางนั้นเป็นแบบ A6000 ทั้งหมด ส่วนบนก็มีการติดตั้งปุ่มที่เพียงพอต่อการใช้งาน และยังมาพร้อมกับ Roller ปรับสั่งงานและปุ่มละลายหลังแบบ ZV-1 แต่พิเศษกว่าคือเมื่อเสียบคอมพิวเตอร์สั่งเป็น Webcam ได้ทันที ปุ่ม Mode แบบผลัก หายไป มาเป็นแบบกด และการเปิด / ปิดกล้องเป็นแบบผลัก ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะไม่ทำให้กล้องลั่นบ่อย
แต่สิ่งที่ผมมองว่า ไม่ OK เลยคือ ช่องเสียบครับ มันดันไปกองอยู่ฝั่งซ้ายหมด แต่สิ่งที่ OK คือ มันมีช่องเสียบหูฟัง Monitor มาให้เลย
ที่เหลือนั้นไม่ว่าจะเป็นส่วนควบคุมอยู่ถูกที่หน้าจอ 3 นิ้วคมชัด แต่ไม่รองรับ Touch Screen และยังมาพร้อมกับช่องเสียบต่างๆ อยู่ด้านล่างทั้งหมด มีช่องเสียบ SD Card และ แบตเตอรี่แบบ Infolitium W ครับ
แต่ภาพรวมถือว่าน้ำหนักของเครื่องหนักกว่า ZV-1 เยอะเพราะเป็นลักษณะของเครื่องเป็นแบบ Mirorless ใช้เซนเซอร์ APS-C นั่นเอง เมื่อรวมกับขาตั้ง Selfie ถ้าจะถือต้องระวังให้ดีถ้าไม่ถือมั่นก็อาจจะหล่นได้
ฟีเจอร์ของกล้องยกมาจาก ZV-1
เมนูและการทำงานต่างๆ นั้นถือว่าไม่ได้แตกต่างจาก ZV-1 เลยครับ แต่ว่าสำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยน Mode ย่อยจุดนี้ผมว่าลึกมาก คุณต้องกดเข้าไปที่ FN แล้วเลือกจากเมนูด้านล่าง ค่อนข้างลึกไปหน่อย
แต่ลูกเล่นที่เหลือนั้นมันก็ใช้การกดไม่ได้เป็นแบบ Touch Screen ถามว่ามันดีไหม ดีครับ เพราะเลือกกดแล้วง่ายและสามารถย้อนกลับได้แค่ปุ่ม Menu เท่านั้นครับ
คุณภาพแบบ APS-C + การถ่ายวิดีโอที่นิ่งขึ้น
จุดเด่นของกล้องรุ่นนี้เมื่อมีการใช้เซนเซอร์ APS-C ที่ขนาดใหญ่กว่า ZV-1 แบบชัดเจน นอกจากส่งผลขนาดเครื่องใหญ่แล้ว แต่เมื่อเห็นแบบนี้ก็ทำให้เครื่องมีขนาดใหญ่ไปด้วย ก็เลยทำให้คุณภาพของภาพที่ทำได้ดี พร้อมกับจุดเด่นที่สามารถโฟกัสได้ดีเลยครับ และมีจุดโฟกัสกว่า 425 + 425 จุด ส่วนระบบกันสั่นนั้นเป็นแบบใช้ Software ถ้าเป็น Active จะซูมเข้าไปเล็กน้อย และคุณจะเห็นภาพจากด้านล่างนี้
และนอกจากนี้ความพิเศษคือ กล้องรุ่นนี้เปลี่ยนเลนส์ได้ จนทำให้กล้องรุ่นนี้จะปรับเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย จนเรียกได้ว่ามันคุ้มค่ามากๆ เลยครับ
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จของเครื่อง
แบตเตอรี่มีขนาด 1020 mAh ทำให้สามารถใช้งานถ่ายภาพอยู่ที่ 440 ภาพ และถ่ายวิดีโอได้นานสุด 3 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าไม่พอแล้วคุณสามารถเสียบ USB-C ให้ด้วย เพียงแต่ว่า ถ้าเป็นการถ่ายแบบ Live ต้องทำความละเอียดได้แค่ HD เท่านั้น แต่ถ้าการถ่าย 4K ยังคงมีข้อจำกัดครับ ดังนั้นใครอยากได้กล้องถ่าย Live 4K หรือถ่าย 4K นานๆ เชิญ Handycam ดีกว่า
ความรู้สึกหลังลองใช้
ขอเรียงเป็นข้อๆ ครับ
ชอบสุดๆ
- เปลี่ยนเลนส์ได้ ฟีเจอร์เท่า ZV-1
- ภาพคมกว่าเพราะเซนเซอร์ APS-C
- ต่ออุปกรณ์เสริมได้ และ USB-C
- แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น
- ต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายและลงตัว
ไม่ชอบ
- น้ำหนักเมื่อรวมกับไม้ Grip หนักไปหน่อย
- ฟังก์ชั่นของ Sony ลึกและบางอย่างซ่อนแอบไว้เยอะ
- ช่องเสียบมากองฝั่งซ้ายหมด ทำให้เมื่อต้องเสียบและหันจอออกมันสายมารบกวนสายตาเยอะ
- อุปกรณ์เสริม ราคาแพง
คุ้มค่าแค่ไหนหากจะเลือกซื้อ Sony ZV-E10
ตัดความง่ายๆ ดีกว่า Sony ZV-E10 จะมีราคาอยู่ที่ 23,990 บาท ทั้งนี้กล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับเลนส์ 16-50 มม. ดังนั้นถ้าใครจะต่อยอดก็ดูราคาเลนส์ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าใครต้องการกล้องรุ่นใหม่ที่เน้นคุณภาพในการละลายหลังดี เซนเซอร์แบบเดียวกับ Mirrorless คุณภาพแบบคับเครื่อง นี่เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้กล้องที่ดีมีคุณภาพอีกตัวเลือกหนึ่งครับ ตัวนี้ถือว่าเลือกซื้อได้ครับ
Last modified: September 6, 2021