5 ปากกา iPad ยี่ห้อไหนดี เขียนลื่น ไม่มีสะดุด

iPad อุปกรณ์ที่ใครหลายคนต่างก็มีไว้ครอบครอง เพราะความสะดวกสบายในการหยิบจับใช้งาน รวมถึงหน้าจอที่ใหญ่ ชัดเจนและสวยงาม ซึ่งอุปกรณ์คู่กันที่เหล่าสาวกต้องมีนั้นอย่าง ปากกา iPad ที่เมื่อนำมาใช้รวมกันนั้นจะช่วยประหยัดเวลาในการทำงานได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งดีไซน์การออกแบบในการผลิตของปากกา iPad นั้นจะมีการออกแบบให้ปลายแท่งเป็นพลาสติกแข็งมีขนาดที่เล็กช่วยให้สามารถนำไปสัมผัส ขีดเขียนกับจอแสดงผลของหน้าจอ iPad ได้ดี สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย เพียงแค่จับหัวปากกาหมุนออกมาก็เป็นเสร็จเรียบร้อย ในส่วนของตัวด้ามมีลักษณะคล้ายดินสอ พร้อมให้ผิวสัมผัสที่เรียบลื่นสบายมือ จับได้ถนัดกันตกหล่นเวลาใช้งานได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยแบตเตอรี่ภายในตัวที่เพียงแค่เสียบสายชาร์จก็เรียบร้อย

ซึ่งถือว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราประหยัดเวลาไปอย่างมากมายเลยล่ะครับ และสำหรับใครก็ตามที่อยากได้มาใช้สักแท่งแต่ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนมาใช้ดี ก็ลองมาดู 5 ปากกา iPad ยี่ห้อไหนดี เขียนลื่น ไม่มีสะดุด เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนจะซื้อก็ได้ครับ ไปดูกันเลยว่ามียี่ห้ออะไรกันบ้าง

ที่มา : https://www.apple.com/th/apple-pencil/Apple Pencil

ราคาโดยประมาณ : 4,500 บาทแน่นอนว่า iPad เป็นของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Apple ดังนั้นปากกาสำหรับไอแพดยี้ห้อแรกที่เราจะนำมาเสนอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Apple Pencil ของแบรนด์เดียวกันนั่นเอง ซึ่งตัวของปากกาจากแบรนด์นี้มีออกมาให้งานกันถึง 2 รุ่น ซึ่งดีไซน์และสเปคภายในก็แตกต่างกันไป โดย Apple Pencil รุ่นแรกนั้นจะเป็นปากกาทรงกลมเหมือนกับด้ามดินสอทั่วไป ทำการชาร์จผ่านปลายด้ามของปากกา ในส่วนเรื่องของความแม่นยำนั้นก็มีความแม่นยำที่ลึกไปถึงระดับพิกเซล ใช้งานง่ายรวดเร็ว ไวต่อแรงกดและการเอียงและตัวปากกานั้นก็มีความหน่วงในระดับที่แทบจะไม่รู้สึกทำให้ใช้งานได้อย่างง่าย ๆ และสำหรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ก็มีดีไซน์แบบแบน จับถนัดมือและติดนิ้ว ความโดดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่สามารถจับคู่และชาร์จแบบไร้สาย เพียงแค่นำปากกาไปยึดติดกับ iPad ซึ่งตัวยึดติดนั้นเป็นแม่เหล็ก เมื่อทำการยึดติดเข้าด้วยกันแล้วก็สามารถเชื่อมต่อได้ทันที และเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยทันที เรียกว่าสะดวกสบายมากขึ้นเพราะเราไม่จำเป็นต้องพกสายชาร์จระหว่างการเดินทางเลยล่ะครับ และยังสามารถแตะที่ตัวปากกาสองครั้งเพื่อเปลี่ยนเครื่องมือที่ใช้อยู่ได้อีกด้วย สำหรับปากการุ่นนี้ก็ยังคงให้ความแม่นยำที่ลึกไปถึงระดับพิกเซลเหมือนกับรุ่นที่ 1 และไวต่อแรงกดและการเอียง พร้อมด้วยความหน่วงในระดับที่แทบจะไม่รู้สึกเพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลไม่ทำให้รู้สึกสะดุดเลยล่ะครับ

ที่มา : https://www.mercular.com/applesheep-stylus-v2-pencil-ipad

ปากกา AppleSheep Stylus V2 Pencil iPad ราคาโดยประมาณ : 1,000 บาท

เอาล่ะครับก็มาถึงปากการุ่นต่อมาอย่าง ปากกา AppleSheep Stylus V2 Pencil iPad สินค้าที่เป็นแบรนด์ไทยผลิต จัดว่าเป็นสินค้าที่มีดีไซน์สวยงามและคุณภาพก็อยู่ในระดับที่ดี รวมถึงราคาก็ไม่แพง สามารถซื้อมาใช้งานได้ทุกวัยเลยล่ะครับ สำหรับจุดเด่นของปากกาขากแบรนด์นี้ก็มีฟังก์ชัน Palm Rejection ที่จะทำให้สามารถวางมือบนหน้าจอเวลาเขียนได้ จึงทำให้เขียนได้อย่างลื่นไหลไม่ต้องกลัวว่าหน้าจอจะจับเซ็นเซอร์ที่มือแต่อย่างใด ราวกับเรากำลังวางมือลงบนแผ่นรองเมาส์และมีปากกา AppleSheep เป็นเมาส์ให้ใช้งาน สำหรับในเรื่องการเชื่อมต่อนั้นก็สามารถทำการเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายเพียงแค่แตะที่ปลายปากกาก็จะทำการเชื่อมต่อกับ iPad ได้แล้ว ในส่วนของหัวปากกานั้นก็ออกแบบมาให้เขียนง่าย ลื่นไหลไม่มีสะดุด และไม่ดีเลย์ จึงมั่นใจได้เลยว่าการใช้งานจะมีเสถียรภาพที่ดีและมั่นคง ในส่วนของตัวด้ามจับก็ทำมาจากพลาสติกแข็งเกรดพรีเมี่ยมแข็งแรงทนทาน ให้ผิวสัมผัสที่เรียบลื่น ใช้งานสบายมือ ลดรอยนิ้วมือขึ้นได้จึงไม่ต้องกังวลว่าพอใช้ไปนาน ๆ แล้วรอยนิ้วมือจะติดที่ด้าม และสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่นั้นเจ้าปากกาตัวนี้ก็มาพร้อมกับพอร์ตชาร์จเข้าเป็นแบบ Type-C โดยการการชาร์จให้แบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สามารถนำไปใช้งานได้ประมาณ 1 วันเต็มกันเลยทีเดียว และใครที่สนใจเจ้าปากกาตัวนี้ก็สามารถเลือกสีที่ต้องการได้ถึง 6 สีด้วยกัน เรียกได้ว่านอกจากคุณภาพจะดี ราคาถูกแล้ว ยังมีสีสันให้เลือกอีกมากมายด้วยครับ

ที่มา : https://www.mercular.com/baseus-acsxb-c02-capacitive-ipad-stylus-active-passive-version

ปากกา Baseus ACSXB-C02 Capacitive iPad Stylus (Active+Passive version)ราคาโดยประมาณ : 1,550 บาท

ตัวที่สามนี้คือ ปากกา Baseus ACSXB-C02 Capacitive iPad Stylus (Active+Passive version) ปากกาที่ทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย กับพลาสติก ทำให้มีน้ำหนักที่เบามาก ๆ เพียงแค่ 15.8 กรัม มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเทียมโพลิเมอร์ขนาด 130 mAh เมื่อชาร์จเต็มสามารถใช้งานได้ถึง 8.5 ชั่วโมง แต่ถ้าหากไม่มีการใช้งานปากกาตัวนี้เป็นเวลา 5 นาที ตัวปากกาก็จะเปิดโหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะทันที ซึ่งเวลาในการสแตนด์บายตอนไม่ใช้นั้นสูงสุดถึง 12 เดือนกันเลยทีเดียวหมดปัญหาเรื่องชาร์จแบตโดยไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์เลยล่ะครับปากการุ่นนี้ยังมีระบบการป้องกันแบบเต็มหน้าจอจากการถูกสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องกลัวว่ามือเราจะลั่น พร้อมความสามารถในการเปลี่ยนความกว้างของเส้นภายใต้แรงกดเมื่อดัดงอ เปลี่ยนหัวปากกาได้อย่างง่ายดาย จึงจัดว่าเป็นปากกาอีกตัวที่น่าใช้งานมาก ๆ ครับ

ที่มา : https://www.mercular.com/logitech-crayon-ipad-2018-and-later

ปากกา Logitech Crayon iPad 2018 and Later ราคาโดยประมาณ : 2,599 บาท

มาถึงตัวที่สี่กับแบรนด์ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี กับ Logitech แบรนด์สินค้ายอดนิยมที่ผลิต ปากกา Logitech Crayon iPad 2018 and Later ออกมาให้ผู้คนใช้งานกัน โดยตัวปากกานี้สามารถ ใช้งานกับ iPad ทุกรุ่น และรองรับการใช้งานกับรุ่นใหม่ได้อย่างเสถียร ซึ่งตัวปากกานี้ก็มีการใช้งานที่ง่ายดายเพียงแค่กดปุ่มเปิดก็สามารถนำไปเชื่อมต่อกับ iPad ได้เลยทันที มีดีไซน์การออกแบบที่นอกจะเน้นความสวยงามกับการจับที่ถนัดมือเนื่องจากผิวสัมผัสเรียบลื่น และยังช่วยลดรอยนิ้วมือที่เกิดขึ้นได้ทำให้ด้ามปากกานั้นสีสวยงามยาวนานมั่นใจในเรื่องความแข็งแกร่งของตัวปากกาเพราะวัสดุทำจากอลูมิเนียมเกรดพรีเมียม ควงแขนมากับฝาปิดยางซิลิกอน และฝาปิดปลายปากกาแบบ PC+ABS ในส่วนของหัวปากกานั้นเขียนง่ายลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่ดีเลย์ มาพร้อมกับระบบวางมือลงบนจอขณะเขียนได้ ทำให้เขียนได้อย่างสบายใจ ใช้งานได้นานถึง 7.5 ชั่วโมง จากการชาร์จเพียงครั้งเดียว หากเจอสภานการณ์เร่งด่วนที่ต้องใช้งาน การชาร์จเพียง 2 นาที ก็สามารถช่วยให้เราใช้งานได้นานถึง 30 นาทีแล้ว และยังมีโหมดปิดการใช้งานอัตโนมัติหลังจากทิ้งไว้ 30 นาทีเพื่อเป็นการเซฟแบตเตอรี่อีกด้วยครับ

ที่มา : https://www.mercular.com/momax-one-link-active-stylus-pen

ปากกา Momax One Link Active Stylus Penราคาโดยประมาณ : 1,690 บาทสำหรับปากกา iPad ตัวสุดท้ายที่เรานำมาเสนอคือ ปากกา Momax One Link Active Stylus Pen ปากกาคุณภาพดีจาก Momax ที่พร้อมมอบประสบการณ์การเขียนได้อย่างลื่นไหลบและแม่นยำด้วยฟังก์ชั่นวางมือบนหน้าจอเวลาเขียนได้ และยังทำการเชื่อมต่อได้ง่ายดายเพียงแค่แตะที่ปลายปากกา ก็สามารถพบเจอกับการใช้งานง่าย เขียนลื่นไหลไร้อาการสะดุด อีกทั้งยังไม่ดีเลย์ เขียนได้-อย่างสบายใจ จากปลายปากกามีขนาด 1 มม. ในส่วนของตัวด้ามทำจากพลาสติกแข็ง เกรดพรีเมียมแข็งแรงทนทานรูปร่างคล้ายกับดินสอ มีผิวสัมผัสเรียบลื่น ใช้งานสบายมือ พกพาแบตเตอรี่ขนาด 140 mAh พอร์ตชาร์จแบบ Type-C ใช้เวลาในการชาร์จ 1 ชม. โดยการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้ประมาณ 20 ชม. และตัวปากกายังทำการปิดเองอัตโนมัติหากไม่ใช้งานเป็นเวลา 5 นาที สามารถใช้งานได้กับหน้าจอ iPad ที่ติดฟิล์มกันรอย และไม่ได้ติดฟิล์ม นํ้าหนักเบาเพียงแค่ 16.4 กรัมจึงจัดว่าเป็นอีกปากกาที่น่าซื้อมาใช้จริง ๆ ครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 ปากกา iPad ยี่ห้อไหนดี เขียนลื่น ไม่มีสะดุดที่เราได้แนะนำกันไปซึ่งใครที่ถูกใจและรู้สึกว่าใช่เลยก็สามารถหาซื้อมาใช้กันได้ มีหลายที่ที่สามารถสั่งซื้อมาใช้ หรือจะโปรโมชั่นเด็ด ๆ ก็มีมากมายอย่าง Mercular flash sale ที่มีของเด็ด ๆ เจ๋ง ๆ คุณภาพดีมาลดราคาต่อเนื่องอยู่เสมอ พร้อมบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *